แนะนำวิธีนวดถนอมสายตา เพื่อรักษาสุขภาพตาด้วยตนเอง


แนะนำวิธีนวดถนอมสายตา เพื่อรักษาสุขภาพตาด้วยตนเอง วันนี้ทางแอดมินมีข้อมูลดีๆ นำมาฝากสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพตา ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการมองเห็นอย่างยิ่ง หากสนใจมาลองดูวิธีการนวดตามรายละเอียดด้านในค่ะ



การถนอมรักษาสายตา ด้วยตนเองโดยวิธีนวด
การถนอมรักษาสายตามีมากมายหลายวิธีดังที่เคยเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น
1. ไม่มองของสีขาวกลางแดดหรือมองแสงสว่างจ้านานๆ เช่น ดวงอาทิตย์ แสงจากการเชื่อมโลหะ เป็นต้น
2. ไม่อ่านหนังสือตัวเล็กเกินไปเป็นเวลานานๆ รวมทั้งไม่อ่านหนังสือในรถ เรือ ที่มีความสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลาด้วย
3 ไม่อ่านหนังสือในที่สลัวๆ หรือมีแสงมากเกินควร ต้องให้มีความเข้มของแสงพอเหมาะ ส่องมาจากข้างหลังหรือด้านซ้ายมือ
4. ไม่อ่านหนังสือ (หรือมองวัตถุ) ชิดใบหน้า ควรวางหนังสือให้ห่างจากตาประมาณ 1 ฟุต
5. ไม่เอามือหรือผ้าสกปรกเช็ดหรือขยี้ตา
6. ระวังไม่ให้มีการกระทบกระเทือนกะโหลกศีรษะบริเวณเบ้าตา เช่น ชกต่อย อุบัติเหตุ ยิงหนังสติ๊กถูกตา ถูกไอสารเคมี หรือน้ำยาที่ระคายต่อตา
7. ไม่ไว้ผมยาวปรกหน้าและมาบังตา ทำให้มองไม่ถนัด และเป็นช่องทางให้ควาบสกปรกจากผมเข้าเบ้าตาได้
8. ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าขาวม้าร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยเป็นโรคตา เป็นต้น
9. เมื่อเป็นโรคตาต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที ไม่ควรใช้ยาตา (หยอด, ป้าย) เอง
10. เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา แว่นตา ควรไปปรึกษาแพทย์เรื่องการใส่แว่นและเรื่องการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม
การฝึกนวดตนเอง 7 ท่า
ท่าที่ 1 ท่าเสยผม
ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง กดขอบกระบอกตาบนให้แน่นพอควร ทำทั้ง 2 ข้างพร้อมๆ กัน ค่อยๆ ดันนิ้วทั้ง 3 นิ้วเรื่อยขึ้นไปบนศีรษะจนถึงท้ายทอยแบบเสยผม ทำ 10-20 ครั้ง
 
 
ท่าที่ 2 ท่าประแป้ง
ใช้นิ้วกลางทั้งสอง กดตรงหัวตา (โดนสันจมูก) แน่นพอควรดันนิ้วขึ้นไปจนถึงหน้าผาก แล้วใช้นิ้วทั้งหมด (เว้นนิ้วหัวแม่มือ) แตะหน้าผากโดยให้ปลายนิ้วมือจรดกัน แล้วลูบลงไปข้างแก้มแบบแนบสนิทมายังคาง ทำ 10-20 ครั้ง
 

ท่าที่ 3 ท่าเช็ดปาก
ใช้ฝ่ามือขวาทาบบนปากลากมือไปทางขวาให้สุด ให้ฝ่ามือกดแน่นกับปากพอสมควร เปลี่ยนใช้มือซ้ายทาบปากแล้วทำแบบเดียวกันนับเป็น 1 ครั้ง ทำ 10-20 ครั้ง
 

ท่าที่ 4 ท่าเช็ดคาง
ใช้หลังมือขวาทาบใต้คาง แล้วลากมือจากทางซ้ายไปขวาให้หลังมือกดแน่นกับใต้คางพอควร เปลี่ยนใช้มือซ้ายทำแบบเดียวกัน นับเป็น 1 ครั้ง ทำ 10-20 ครั้ง
 

ท่าที่ 5 ท่ากดใต้คาง
ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างกดใต้คาง โดยให้ปลายนิ้วตั้งฉากกับคาง ใช้แรงกดพอควรและกดนานพอควร (นาน 10 วินาที หรือนับ 1-10 อย่างช้าๆ) เลื่อนจุดกดให้ทั่วใต้คางเฉพาะทางด้านหน้า ทำ 5-10 ครั้ง
 

ท่าที่ 6 ท่าถูหน้าและหลังหู
ใช้มือแต่ละข้างคีบหู โดยกางนิ้วกลางและนิ้วชี้คีบอย่างหลวมๆ วางมือให้แนบสนิทกับแก้ม ถูขึ้นลงแรงๆ นับเป็น 1 ครั้ง ทำ 20-30 ครั้ง
 

ท่าที่ 7 ท่าตบท้ายทอย
ใช้ฝ่ามือปิดหู (มือซ้ายปิดหูซ้าย มือขวาปิดหูขวา) ใช้นิ้วทั้งหมดอยู่ตรงท้ายทอย และปลายนิ้วกลางจรดกัน กระดิกนิ้วให้มากที่สุด แล้วตบที่ท้ายทอยพร้อมกันทั้ง 2 มือด้วยความแรงพอสมควร ทำ 20-30 ครั้ง
 

* สำหรับท่าตบท้ายทอย ต้องไม่ยกฝ่ามือออกจากหู เพราะทำให้การตบแรงเกินควรซึ่งจะกลับให้ผลเสียได้
เมื่อท่านทำครบทั้ง 7 ท่าแล้ว จะรู้สึกหัวโปร่ง เบาสบาย ตาสว่าง หายง่วงนอน รู้สึกสดชื่น ถ้าเป็นไปได้ควรทำวันละ 2 ครั้ง คือ ตอนเช้า ตอนเย็น
ลองทำกันดูนะครับ และเขียนเล่าอาการก่อนและหลังนวดมาแลกเปลี่ยนกับผู้เขียน ส่งไปที่นิตยสาร “หมอชาวบ้าน”
ข้อพึงสังเกตเกี่ยวกับการนวดตนเองเพื่อช่วยสายตา
- ต้องตัดเล็บให้สั้น เพื่อมิให้ไปขีดข่วนใบหน้า
- ไม่ใส่แหวนและต่างหูเพราะอาจจะบูดใบหน้าทำให้เกิดบาดแผลได้
- ต้องล้างมือและหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งก่อนการนวด
- งดการนวดเมื่อมีไข้ ใบหน้าเป็นสิว ฝี หรือมีโรคผิวหนัง
- เริ่มนวลแต่เพียงน้อยครั้ง เช่น 5-10 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่มทีละน้อย
- ตั้งใจนวด มิใช่ทำให้เสร็จๆ ไป หรือทำลวกๆ ถ้าเป้นไปได้ควรทำสมาธิไปพร้อมๆ กันด้วย
- การนวดต้องทำประจำจึงจะได้ผล ไม่ทำๆ หยุดๆ

ข้อมูลสื่อ

79-001
นิตยสารหมอชาวบ้าน 79
พฤศจิกายน 2528
เรื่องน่ารู้
รศ.นพ.กรุงไกร เจนพานิชย์

0 ความคิดเห็น:

Premium Blogspot Templates
Copyright © 2012 หาอาชีพเสริม ระหว่างเรียน ปี 2560 อาชีพ สร้างรายได้เสริม ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย